เป็นประโยคคำถามที่มีความดราม่าอยู่ในตัวอย่างไม่ต้องสงสัย “ระหว่างเงินกับความรัก คุณเลือกอะไร?” คำตอบอาจจะคละกันไป แต่ไม่ได้ยากจะเดาเพราะมันมีตัวแปรอยู่บางประการ และบางทีบทความนี้อาจมีมุมที่เปลี่ยนทัศนคติใครได้หลายคน

ระหว่างเงินกับความรัก คุณเลือกอะไร?

จากคำถามที่ได้บอกไปว่าคำตอบเดาได้ไม่ยากเพราะจะแบ่งตัวแปรได้ออกเป็น 2 ส่วนคือ

  • คนที่คิดว่ามีเงินมากพอแล้ว ก็ย่อมตอบว่าเลือก ความรัก.. กับคนที่คิดว่ามีความรัก(ที่ดี)อยู่แล้ว ก็ย่อมตอบว่า เงินสิ ก็เพราะเราต้องเลือกสิ่งที่ขาด
  • ในอีกด้าน ถ้าใครเจ็บปวด หรือรู้สึกทุกข์จากอีกสิ่งก็จะเลือกอีกสิ่งแทน เช่น คนที่รู้สึกว่า การหาเงิน หรือเรื่องเงินทองทำให้ทุกข์ ก็จะรู้สึกว่าเลือกความรักดีกว่า ในขณะคนที่ทุกข์กับรักมามาก ย่อมเลือกเงินดีกว่าเช่นกัน.. นี่เราย่อมเลือกสิ่งที่(รู้สึกสุข)ง่ายกว่า

ดูชัดเจน แต่ก็อาจมีคนรู้สึกแย้งว่า ด้วยสังคม ค่านิยมทุกวันนี้แล้ว มันทำให้ใครๆ ก็ต้องเลือกเงินหรือน่าจะเลือกเงินมากกว่า มันก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งนั่นก็สะท้อนตัวแปรเดิมอยู่ดีว่า ก็เพราะเรายังรู้สึกขาดเงิน ไม่ได้หมายความต้องจนหรือขนาดขัดสน เพียงคิดว่ายังมีมันไม่พอตอบสนองในหลายๆ ด้าน จึงยังต้องการและเห็นความสำคัญมากอยู่ หรือไม่เช่นนั้น ก็เพราะไม่เชื่อในเรื่องความรัก ย่อมไม่คิดว่ามันจะสุขได้จริง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หรืออะไรก็ตาม ทำให้สรุปได้ว่ายากที่จะหาสิ่งดีๆ จาก “รัก” คำนี้ ทั้งสิ้นก็ยังไม่พ้นตัวแปรเดิมข้างต้น เพียงแต่เป็นมุมที่ละเอียดอ่อนกว่า โดยอย่างยิ่งสังคมปัจจุบันที่ดูจะไปบนแนวทางที่เหมือนว่า มีเงินหาสุขได้มากกว่า หรือเลือกรักมักดูโง่ แต่ถ้าให้ทบทวนดีๆ สิ่งที่อยู่ในใจอาจจะไม่มีใครบอกออกมาตรงๆ ทั้งยังมีใครไหมอยู่ได้แบบไร้รักสิ้นเชิง?

ที่กล่าวไปนั้นไม่ได้เป็นบทสรุปของทุกๆ คน เชื่อว่ามีหลายคนที่กำลังคิดว่า เลือกไม่ได้.. หรือ ต้องเลือกทั้งสองอย่างนั่นแหละ ซึ่งเมื่อมองกันดีๆ แล้ว มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ที่จะให้เลือกเพียงอย่างเดียว..

..แน่หรือ ถ้ามีเงินมากพอ คุณพร้อมที่จะทิ้งญาติ มิตร พี่น้อง ไร้คู่ครอง และสุขกับเงิน วัตถุ สิ่งของ ที่มี?

..แน่หรือ ว่าคุณพร้อมที่จะรักคนหนึ่ง ซึ่งแม้จะขัดสนอย่างไรก็ยอม?

ไม่มีทางหรอกที่เราจะเลือกในทางหนึ่งทางใดอย่างเด็ดขาด หากเลือกสิ่งหนึ่งไปก่อน เมื่อได้มา ก็ย่อมต้องหาอีกสิ่ง

ในมุมหนึ่งอาจเป็นสิ่งที่หลายคนไม่เคยคิดตรองให้ดีกับคำตอบที่มีในใจ สมมติว่า คุณเลือกเงิน และมีมันพอควร แต่ถ้าเกิดคนรักคุณป่วยแบบที่ต้องใช้เงินมหาศาล บางทีคุณจำยอม “ทิ้งเงิน” นั้นไปเพื่อรักษา(คน)รักไว้ก็ได้ เช่นกัน สมมติคุณเลือกรัก เมื่อถึงที่สุดของความลำบากในชีวิตคุณก็อาจต้อง “ทิ้งรัก” ไป เพื่อเงินหรือปัจจัย หรือเป็นฝ่ายเสียสละไปให้คนรักได้ไปสบายก็ได้ (พระเอกนางเอกกันไปอีก แต่ก็ทิ้งนะ อย่าลืม)

ดังนี้ คำตอบของผมคือ เราควรเลือกที่จะเข้าใจมันทั้งสองสิ่งให้ดี และมีมันอย่างเหมาะสม

มีคนไม่น้อย.. ด้วยเพราะความร่ำรวย สามารถมุ่งมั่นทำเพื่อบางสิ่งที่รัก หรือมีคนรักเป็นแรงผลักดัน บันดาลใจ

มีคนไม่น้อย.. ด้วยเพราะรักในบางสิ่ง หรือเพื่อคนรัก จึงมุ่งมั่นให้สำเร็จ ร่ำรวย

ไม่ว่าจะในมุมไหน สองสิ่งนี้มันมักจะไปด้วยกันและไปด้วยกันได้ ต้องเข้าใจมันให้ดีๆ ก่อน เพราะ รัก มักนิยามได้หลากหลาย และเงินก็กลายเป็นปัจจัยแห่งความสุข ที่อาจไม่ใช่ทุกกรณีที่หมายถึงเงินจริงๆ ก็เป็นได้..

ทั้งนี้ทั้งนั้น ชีวิตที่ดี คือความพอดี ความสมดุลในทุกด้าน บางทีคำถามแบบนี้ไม่ควรที่จะต้องใส่ใจ เพราะเป็นคำถามที่ไม่เข้าท่าเอาเลยเสียด้วยซ้ำ..

ปล. บางคนอาจบอกว่า คำถามนี้ ระหว่างเงินกับความรัก นี่เขามักหมายถึงแฟน หรือคู่ครอง ถ้ากรณี ก็ต้องบอกว่า คนรักที่ดีจริงก็ช่วยกันทำให้มีเงินได้ หรือ มีเงินไม่ต้องมีแฟนก็ได้ แต่ต้องไม่ขาดรักอยู่ดี ก็ต้องดูอีกทีว่ารักที่ทดแทนนั้นมันเพียงพอไหม ถ้า “ขาด” เมื่อไหร่ คำตอบใครคนนั้นก็จะเปลี่ยนไป อีกครั้ง.. (สรุป มันก็ต้องมี 2 อย่างอยู่ดี)

ปล.2 ทำไมมามีเรื่องความรักอะไรแนวนี้ได้ ก็ขอบอกว่า เราควรมีทัศนคติดีๆ ต่อทุกสิ่ง ซึ่งก็หวังว่าเป็นบทความดีๆ บทความน่าอ่านบทความหนึ่ง ซึ่งอ่านกันไปดูหลากหลายดี ขอกันมาได้ถ้าอยากให้เขียนหัวข้ออะไร (ที่จริงได้ยินละครถามมา)



Line: @soulmate